คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดแผนการลงทุนปีแพะ
คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนลประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ย 10-12% ทุ่มงบกว่า 20 ลบ. ผุดศูนย์เบรก เซอร์วิส เซ็นเตอร์ เพิ่มอีก 12-15 แห่งตามหัวเมืองและเขตเศรษฐกิจที่สำคัญทั่วประเทศ ชูจุดเด่น R&D และศูนย์ทดสอบเบรกแห่งแรกและแห่งเดียวในอาเซียน
คุณเกษม อิสระพิทักษ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (1994) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าเบรกคุณภาพ เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-12% ซึ่งมีความมั่นใจว่ามีความเป็นไปได้ เพราะมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนอย่างเช่น การทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาทสำหรับลงทุนเปิดศูนย์เบรก เซอร์วิส เซ็นเตอร์ เพิ่มอีกประมาณ 12-15 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยจะมีการพิจารณาจากสถานที่ตั้งของแต่ละศูนย์ตามหัวเมืองและเขตเศรษฐกิจที่สำคัญทั่วประเทศ และจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการตามความพร้อมของแต่ละศูนย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำให้บริษัทมียอดขายและอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขี้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทได้เปิดศูนย์เบรก เซอร์วิส เซ็นเตอร์ แล้ว 2 แห่งคือที่สายไหมและรามคำแหง เพื่อเป็นศูนย์ต้นแบบให้กับศูนย์อื่นๆ โดยบริษัทมีปรัชญาในการจัดตั้งศูนย์เบรก เซอร์วิส เซ็นเตอร์ เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของเบรกที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดจากเบรก ทั้งการใช้เบรกแล้วมีเสียงดัง เบรกไม่อยู่ เป็นต้น ซึ่งเมื่อเข้ามาที่ศูนย์บริการแล้วต้องได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง รวมทั้งมีการบริการหลังการขายที่ดีด้วย
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตประมาณ 2 ล้านชุดต่อปี และสามารถรองรับการเพิ่มกำลังการผลิตได้สูงสุดประมาณ 1,200 ล้านชุด นอกจากนี้ ในปี 2558-2559 จะเป็นช่วงที่บริษัทวางแผนลงทุนในอนาคต ทั้งเรื่องของก่อสร้างโรงงานเพิ่มและติดตั้งเทคโนโลยีในการผลิตแบบใหม่ รวมถึงเครื่องทดสอบที่รองรับกฎระเบียบใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
“ในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อาจจะมีการกำหนดมาตรฐานและกฎระเบียบใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบเบรกที่จะใช้ร่วมกันในกลุ่มอาเซียน อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งอาจจะมีความต้องการมาตรฐานและขอให้มีการบังคับใช้ร่วมกันทั้งกลุ่มอาเซียน เป็นต้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยด้านระบบเบรกมาควบคุม จึงทำให้มีสินค้าหลากหลายมาตรฐานเข้ามาจำหน่ายในประเทศ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตไว้ก่อน” คุณเกษมกล่าว
{gallery}Biz_Interview/2015/bfi_026/compact/photo{/gallery}
คุณเกษมกล่าวต่อถึงการพัฒนาด้านการวิจัยและพัฒนา หรือ R&D ว่า บริษัทได้ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 200 ล้านบาท สร้างศูนย์วิจัยและทดสอบเบรกขึ้นเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย เครื่องไดนาโมมิเตอร์ มูลค่าประมาณ 30-50 ล้านบาท จำนวน 2 เครื่อง แบ่งออกเป็น เครื่องสำหรับทดสอบเบรกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลกับรถกระบะ จำนวน 1 เครื่อง นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น
ส่วนอีก 1 เครื่องเป็นเครื่องไดนาโมมิเตอร์ สำหรับทดสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่ไปจนถึงรถพ่วง โดยนำเข้าเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ภายในโรงงานยังมีแล็บ สำหรับการทดสอบในส่วนของเคมี เพื่อทดสอบแรงบิด แรงเฉือน การทนความร้อนต่างๆ ของผ้าเบรก
“ธุรกิจเบรกไม่ได้ลงทุนแค่เรื่องกำลังการผลิต แต่ต้องลงทุนในเรื่องของความปลอดภัย ดังนั้นต้องมีการลงทุนในเรื่องของเครื่องทดสอบด้วย เราเป็นเพียงรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีเครื่องทดสอบนี้ ส่วนโรงงานที่ผลิตผ้าเบรกอื่นๆ ไม่ได้มีการลงทุนเรื่องเครื่องจักร เพราะเครื่องจักรทดสอบทั้งหมดจะอยู่ที่บริษัทแม่ เราจึงความพร้อมมากในเรื่องของวิจัยและพัฒนา และในอนาคตเราจะสามารถเติบโตไปได้ไกลกว่านี้” คุณเกษมกล่าว