อินทรี ซุปเปอร์บล็อกเพิ่มกำลังการผลิตรุกตลาดปีมะแม
อินทรี ซุปเปอร์บล็อกอัดฉีดเพิ่มกำลังผลิตโรงงานทั้ง 2 แห่ง หวังรุกขยายตลาดลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเต็มพิกัดในปีนี้ พร้อมเล็งโตกว่า 50% ชูจุดเด่นคว้ารางวัล “ฉลากเขียว” เจ้าแรกในไทย
ดร.จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินทรี ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด ในเครือบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด(มหาชน) หรือ “ปูนอินทรี” เปิดเผยว่า บริษัทซื้อสินทรัพย์การผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบา (Autoclaved Aerated Concrete) เกรด 4 มาจากบริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด(มหาชน) เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท โดยโรงงานตั้งอยู่ที่ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี มีเนื้อที่รวม 58 ไร่
สำหรับโรงงานที่ จ.สิงห์บุรี ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการปรับปรุงและเพิ่มเครื่องจักรใหม่รวมทั้งปรับปรุงระบบด้าน Safety ให้เป็นไปตามมาตรฐานของปูนอินทรี หลังจากที่ดำเนินการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วในปี 2558 บริษัทจะมีกำลังผลิตเพิ่มเป็น 6.1 ล้านตารางเมตรต่อปี
นอกจากนี้เมื่อปลายปี 2556 บริษัทยังขยายโรงงานผลิตแห่งที่ 2 ใน อ.เมือง จ.ราชบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งเป็นการซื้อสินทรัพย์การผลิตจาก บริษัท พรอสเพอริตี้ คอนกรีต จำกัด ในราคา 200 ล้านบาท และได้ลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรและในส่วนต่างๆ อีกประมาณ 20 ล้านบาท ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 1.6 ล้านตารางเมตรต่อปี
ดร.จิรัฏฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับยอดขายในปี 2557 บริษัทมีการเติบโตกว่าปี 2556 ที่ผ่านมาประมาณ 20% ส่วนในปี 2558 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตกว่า 50% ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้เนื่องจากมีทีมขายที่เพิ่มขึ้นและมีกลยุทธ์ที่วางแผนผลักดันไปให้ถึงเป้าหมายไว้รองรับอยู่แล้ว ด้านแผนการลงทุนในปี 2558 ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นและการลด ส่วนการลงทุนภายนอกจะมองหาโอกาสที่จะขยายการลงทุนหรือไปซื้อสินทรัพย์ต่อ
ส่วนการเจาะกลุ่มลูกค้าจะพยายามขยายไปในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้จะขยายไปในตลาดภาคใต้ให้เต็มพื้นที่ เนื่องจากมีโรงงานตั้งอยู่ที่ราชบุรีจึงสามารถเดินทางกระจายไปภาคใต้ได้อย่างสะดวก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้สูง จึงต้องมีการขยายตลาดไปในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น
“กลุ่มผู้รับเหมารายใหญ่ที่รับงานจากดีเวลลอปเปอร์ใหญ่ๆ รู้จักและใช้อิฐมวลเบา แต่ผู้รับเหมารายย่อยยังไม่ค่อยใช้มากนัก เราจะขยายตลาดมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ เน้นกลุ่มคอนโดมิเนียม ส่วนในต่างจังหวัดเน้นกลุ่มโครงการหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งจะทำให้ตลาดเรากว้างมากขึ้น” ดร.จิรัฏฐ์ กล่าว
ดร.จิรัฏฐ์ กล่าวอีกว่า บริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบาเกรด 4 ได้แก่ บล๊อกก่อผนัง แผ่นผนังสำเร็จรูป และเสาเอ็นทับหลังสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า “อินทรี ซุปเปอร์บล๊อก” โดยใช้เครื่องจักรเทคโนโลยีของ WEHRHAHN จากประเทศเยอรมนี
นอกจากนี้ ยังจำหน่ายวัสดุก่อฉาบของอินทรีมอร์ต้าร์แม๊กซ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบาของบริษัทผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.1505-2541) เป็นรายแรกในประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001: 2000 เป็นแห่งแรกของผู้ผลิตคอนกรีตมวลเบาอบไอน้ำในประเทศไทยด้วย
สำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 คาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะบูมแต่จะมีปัญหาด้านแรงงานตามมา เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายในปัจจุบันขาดแคลนแรงงาน ซึ่งถ้าเปิด AEC ค่าแรงในประเทศของแรงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอาจจะมีการปรับตัวสูงขึ้น และอาจส่งผลให้แรงงานที่เคยทำงานอยู่ในประเทศไทยกลับประเทศของตัวเอง ซึ่งจะทำให้เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับประเทศไทย ส่วนการเตรียมความพร้อมของบริษัทคือบริษัทมีทีมเซลล์ที่ชัดเจนมากขึ้นเพื่อจะบุกทำการตลาดได้อย่างเต็มที่
ส่วนจุดเด่นของบริษัทคือคุณภาพมาตรฐานโดยจะผลิตเฉพาะสินค้าเกรด G4 เท่านั้น โดยล่าสุดบริษัทได้รับรางวัล “ฉลากเขียว” ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อผนังเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบาในประเทศไทยจากมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ซึ่งการที่จะได้รางวัลมานั้น บริษัทต้องพัฒนาและวิจัยขั้นตอนในการผลิตเพื่อให้เกิดกระบวนการ Reuse และ Recycle โดยต้องมีวัตถุดิบที่เป็นการ Reuse และ Recycle เกินกว่า 40% จึงจะได้รับรางวัลดังกล่าว
ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility หรือ “CSR”) จะมีการจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกๆ เดือน สำหรับโรงงานที่ จ.สิงห์บุรี การจัดกิจกรรม CSR ส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยเหลือชุมชุนที่อยู่โดยรอบโรงงานในรัศมี 3 กม. อาทิ โรงเรียน, วัด และสถานที่ราชการ เป็นต้น แต่ในปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานที่ จ.ราชบุรีด้วยจึงคาดว่าจะสลับกันทำเดือนละครั้ง โดยมีโจทย์เหมือนกันคือตั้งอยู่ใกล้โรงงานในรัศมี 3 กม. โดยจะช่วยเหลือในสิ่งที่ยังขาดแคลน นอกจากนี้ยังสนับสนุนอิฐมวลเบาโดยนำไปหย่อนไว้ใต้ทะเลเพื่อให้เป็นที่อยู่ของปะการังอีกด้วย