คุณกำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิตและการเงิน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)

คุณกำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิตและการเงิน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2562 บริษัทได้รับรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น (Prime Minister’s Export Award : PM Export Award 2019) ประเภทแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) ในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการเข้าร่วมประกวดรางวัลนี้ในปีแรก ด้วยมีความความตั้งใจโปรโมทแบรนด์ของ เอส แอนด์ พีให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานที่ทำให้เอส แอนด์ พีได้รับรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประเภทแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม โดยเอส แอนด์ พี เน้นเรื่องคุณภาพ คุณค่า และคุณธรรมในการดำเนินงาน ด้วยสโลแกน “เอส แอนด์ พี ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย” อีกทั้งยังเน้นเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคพร้อมการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีจากทั่วประเทศ โดยเน้นการใช้วัตถุดิบ สดใหม่ ปลอดภัย และไม่มีสารพิษตกค้าง โดยวัตถุดิบหลักประมาณ 80-90% มาจากในประเทศส่งตรงจากฟาร์ม เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทย

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการเดินหน้าปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ โดยใช้หลอดพลาสติกที่ย่อยสลายได้ และใช้หลอดกระดาษ รวมถึงกล่องบรรจุอาหารและขนมรักษ์โลกหลายรายการ พร้อมทั้งมุ่งเน้นลดการใช้ถุงพลาสติกให้น้อยลงอีกด้วย ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถลดใช้พลาสติกกว่า 70 ตัน ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้มีการติดตั้ง Solar Roof ขนาด 510 กิโลวัตต์ บนพื้นที่หลังคาโรงงานขนาด 2,700 ตารางเมตร ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 720,000 หน่วย/ปี อันเป็นการช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า และลดการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงงาน โดยในปีนี้กำลังมีการขยายการติดตั้งเพิ่มขึ้นอีกด้วย รวมถึงการได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับผลิตภัณฑ์เค้กกล้วยหอม ในงานร้อยดวงใจ ร่วมใจลดโลกร้อน โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)

ทั้งนี้ รางวัล PM Export Award 2019 ถือเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นรางวัลสูงสุดที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้ส่งออกโดยจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่แบรนด์ เอส แอนด์ พี สามารถนำไปโปรโมทกับลูกค้าใหม่ๆ และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเดิม เพื่อขยายตลาดส่งออก ซึ่งในปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 1% อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าขยายการส่งออกให้เติบโตเพิ่ม 30% ในแต่ละปีและคาดว่ามูลค่าส่งออกในปีนี้จะอยู่ที่ 50 ล้านบาท โดยเน้นอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเป็นหลัก ส่วนตลาดยังคงอยู่ในโซนเดิม คือ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย เป็นต้น

คุณกำธร กล่าวต่อว่า บริษัทเตรียมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตโดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อสนับสนุนการวิจัยด้านการยืดอายุอาหารด้วยการใช้กระแสไฟฟ้า และไม่ต้องแช่แข็ง ซึ่งยังคงคุณค่าและรสชาติของอาหารให้เหมือนทำสดใหม่ได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นแนวทางใหม่ที่จะเพิ่มศักยภาพในการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศให้กับบริษัทได้มากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ทุ่มงบ 550 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้า รวมถึง โรงงานผลิตขนมไทย บนพื้นที่ประมาณ 8,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่บางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 23 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2563 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า ลดการใช้พลังงานและทรัพยากร ในการกระจายผลิตภัณฑ์ไปยัง 500 สาขาทั่วประเทศ

รวมถึง จะสามารถเพิ่มยอดกำลังการผลิตขนมไทย และขยายสาขาการวางจำหน่ายได้ครอบคลุมเพิ่มจาก 100 สาขาในปัจจุบันพร้อมทั้งตั้งเป้ายอดขายขนมไทยเพิ่มเป็น 3 เท่า หรือมีรายได้ 150 ล้านบาท จากขณะนี้ที่มีรายได้ประมาณ 50 ล้านบาท

คุณกำธร กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า การดำเนินธุรกิจของเอส แอนด์ พี เน้นอาหารไทยที่ใส่ใจสุขภาพพร้อมผลักดันกลยุทธ์แบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีเป้าหมายคือการลดใช้พลาสติก อีกทั้งยังเน้นสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ โดยคำนึงถึงหลัก 3P ได้แก่ People Planet และ Profit นอกจากนี้ เอส แอนด์ พี ยังจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า เช่น ซื้อ 3 แถม 1 หรือวันพุธลด 20% เป็นต้น 

ในช่วงระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2562 บริษัทจะจัดกิจกรรม Cake & Cookies 2020 ณ เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 โดยภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ พร้อมสินค้าราคาพิเศษ และเปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ ปี 2020 อาทิ เค้ก คุ้กกี้ และกระเช้าของขวัญ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ SCG โดยนำกระดาษส่วนเกินจากการผลิตมาสานเป็นตะกร้าซึ่งมีความเหนียวและคงทน ต่อยอดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน ใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด

อีกทั้ง ยังสอดคล้องกับการที่สายการผลิตอาหาร เอส แอนด์ พี ได้รับ 3 รางวัลในภาคอุตสาหกรรม อันได้แก่ รางวัล 3Rs Award รางวัล Zero Waste to Landfill Achievement Award และรางวัล 3Rs+ Awards ระดับเหรียญทอง ในโครงการพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์กากของเสีย ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2562 อันเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและลดปริมาณของเสียที่ต้องกำจัด โดยไม่มีการนำของเสียไปฟังกลบ (Zero  Waste to Landfill) ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการของเสียให้กับภาคอุตสาหกรรม นับเป็นความภาคภูมิใจเอส แอนด์ พี  ที่มีกระบวนการผลิตอาหารที่ยั่งยืนเพื่อประเทศและโลกของเรา