December 19, 2025

Biz Focus Industry Issue 153, October 2025

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

โลตัส ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ จัดแคมเปญใหญ่ดึง “NexT1DE”

สร้าง Engagement เจาะใจ Gen Z และนักท่องเที่ยวเอเชีย

     โลตัส ผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า เดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกขยายฐานลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มรูปแบบ หลังมองเห็นศักยภาพของตลาดท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคักต่อเนื่องในปี 2568 ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญใหม่ จัดกิจกรรมแฟนมีตกับศิลปินบอยกรุ๊ปไทย-จีน “NexT1DE” ที่กำลังมาแรงในเอเชีย สร้างการรับรู้เชิงบวกทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมตอกย้ำเป้าหมายการเป็น “จุดหมายปลายทางแห่งอาหารและไลฟ์สไตล์สำหรับคนทุกเจเนอเรชั่น” (The Ultimate Food & Lifestyle for All)

คุณวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงาน Transformation

      คุณวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงาน Transformation บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เปิดเผยว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะแฟนคลับศิลปิน มีอิทธิพลในการมีส่วนร่วมผ่านสื่อดิจิทัล หรือ Digital Engagement เราเชื่อว่าการสร้างความผูกพันกับลูกค้ากลุ่มนี้จะทำให้แบรนด์โลตัสถูกพูดถึงมากขึ้นบนแพลตฟอร์มโซเชียล รวมถึงเป็นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่เข้าถึงง่ายและเป็นเพื่อนใกล้ชิดในชีวิตประจำวันของลูกค้า

      ภายใต้กลยุทธ์ Friends of Lotus’s โลตัสได้มุ่งสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่ม Gen Z และนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ผ่านศิลปินที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือวง NexT1DE ซึ่งมีฐานแฟนคลับหนาแน่น และได้รับความนิยมสูงในกลุ่มลูกค้าต่างชาติหลังแจ้งเกิดจากรายการ CHUANG Asia Season 2 ซึ่งมีสมาชิกทั้งชาวไทยและจีน ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างมากในเอเชีย โดยกิจกรรมแฟนมีตครั้งนี้ไม่เพียงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาไทย แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสสินค้ายอดนิยมและสินค้าพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะที่โลตัสเท่านั้น

      การร่วมมือในฐานะ Friend of Lotus ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้โลตัสเข้าถึงฐานแฟนคลับในจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น รวมถึงเกาหลีใต้ได้ พร้อมขยายภาพลักษณ์แบรนด์ที่ไม่ได้เป็นเพียงซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เป็นพื้นที่แห่งไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมร่วมสมัยที่เชื่อมโยงผู้คนผ่านดนตรีและการช้อปปิ้ง เพราะเราไม่ต้องการให้โลตัสเป็นเพียงสถานที่ซื้อของ แต่เป็นสถานที่ที่ผู้คนมาใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งช้อป กิน และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ” คุณวรวรรณกล่าว

อีกทั้ง โลตัสยังเตรียมเดินหน้าร่วมมือกับศิลปินและคอมมูนิตี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่มใหม่และกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิด หลังมองเห็นศักยภาพของตลาดท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคักต่อเนื่องในปี 2568 และเพื่อยกระดับประสบการณ์ และเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โลตัสได้จัดโซนพิเศษใน 19 สาขาท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา หาดใหญ่ ภูเก็ต สมุย หัวหิน กระบี่ และอยุธยา พร้อมยังได้รวบรวมสินค้า ไม่ว่าจะเป็นขนม ของฝาก ผลิตภัณฑ์สุขภาพความงาม เสื้อผ้า และของที่ระลึก ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

      สำหรับลูกค้าต่างชาติของโลตัส ส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวจีน มาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ โดยชาวจีนยังคงเป็นลูกค้าหลักที่มีสัดส่วนสูงสุด ขณะที่ตลาดมาเลเซียมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะในจังหวัดภาคใต้ที่เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวชายแดน อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนมายังประเทศไทยเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จากเดิมที่เคยนิยมการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ ปีนี้เปลี่ยนเป็นท่องเที่ยวแบบกลุ่มนักเดินทางอิสระ (Individual Traveler) ซึ่งล้วนเป็นเจเนอเรชันใหม่ที่ชอบวางแผนเที่ยวด้วยตนเองผ่านการใช้สื่อออนไลน์ต่างๆ

      และเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ โลตัสจึงพัฒนา “WeChat Mini Program” ซึ่งเป็นช่องทางดิจิทัลที่เชื่อมโยงโดยตรงกับนักท่องเที่ยวชาวจีน ให้สามารถค้นหาข้อมูลสินค้า โปรโมชั่น หรือสาขาที่ต้องการไปล่วงหน้าได้ก่อนเดินทางมาประเทศไทย อีกทั้งยังมีบริการจัดส่งสินค้าถึงโรงแรม และส่งกลับประเทศจีนโดยตรง ถือเป็นการต่อยอดสู่กลยุทธ์ “ออมนิชาแนล” (Omnichannel) ที่ช่วยลดข้อจำกัดในการขนของกลับเอง และเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้อย่างมีนัยสำคัญ

      รวมทั้ง โลตัสยังได้พัฒนา “Lotus’s Tourist Card” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญเพื่อมอบสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรกว่า 20 แบรนด์ชั้นนำแก่ลูกค้าต่างชาติ ครอบคลุมร้านอาหาร ความบันเทิง ทัวร์ และบริการสุขภาพอย่างโรงแรมและสปา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสมัครได้แล้วที่โลตัสทั้ง 19 สาขา ขณะเดียวกัน Lotus’s Tourist Card ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือวัดผลเชิงข้อมูล (Data Insight) เพื่อประเมินการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในแต่ละสาขาด้วย

      นอกจากนี้ เรายังมีการพัฒนาฟีเจอร์ในแอป MyLotus’s เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัล พร้อมตอบโจทย์นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบสะสมแต้ม หรือคูปองพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว ที่สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการเดินหน้า ขยายสาขาขนาดเล็ก “โลตัส โกเฟรช” (Lotus’s Go Fresh) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โรงแรมและแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว โดยจะปรับสินค้าภายในร้านให้ตรงกับความต้องการเฉพาะพื้นที่ เช่น โซนภาคใต้ที่มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียจำนวนมาก จะจัดจำหน่ายสินค้าที่เป็นที่นิยมในตลาดมาเลโดยเฉพาะ

วง NexT1DE

      คุณวรวรรณ กล่าวว่า ปัจจุบันโลตัสมี “ทัวร์ริสสโตร์” (Tourist Store) รวม 19 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย หัวหิน และพัทยา โดยแต่ละสาขามียอดขายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน 20–30% ของรายได้รวม ขณะที่ในกรุงเทพฯ บางสาขาสูงถึง 40–50% เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการคมนาคมสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าและรายล้อมด้วยโรงแรมชั้นนำ ฉะนั้นจึงกลายเป็นฮับหลักของนักท่องเที่ยว

      “ในปีที่ผ่านมาเราพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมามีบทบาทสำคัญต่อยอดขายของโลตัส โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลักและสาขาขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยสร้างการเติบโตให้กับทั้งธุรกิจค้าปลีกและร้านค้าพันธมิตรในศูนย์ของเรา เรามั่นใจว่ากลยุทธ์การสร้างความผูกพัน (Engagement) กับลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใหม่ ผ่านแคมเปญการตลาดที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยว จะยกระดับภาพลักษณ์โลตัสจากการเป็นศูนย์การค้าสู่การเป็น ‘จุดหมายปลายทางแห่งอาหารและไลฟ์สไตล์สำหรับคนทุกเจเนอเรชั่น’ ที่ทุกคนสามารถ ‘รู้สึกดีๆ ได้ทุกวันที่โลตัส’ ไม่ว่าจะเป็นวันพิเศษหรือวันธรรมดา” คุณวรวรรณกล่าว

     สำหรับทิศทางไตรมาสที่เหลือของปี 2568 คุณวรวรรณ เผยว่า แม้ภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนในประเทศจะชะลอตัวลงราว 30% ตามข้อมูลของ ททท. แต่โลตัสได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เนื่องจากได้ขยายฐานลูกค้าไปยังหลายประเทศตั้งแต่ช่วงต้นปี รวมถึงเพิ่มจำนวนสาขาท่องเที่ยวจากเดิมประมาณ 10 สาขา เป็น 19 สาขาในปัจจุบัน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทาง “Diversified Market Approach” ที่มุ่งกระจายความเสี่ยง ไม่ผูกติดกับตลาดใดตลาดหนึ่ง โดยโลตัสยังคงรักษาสัดส่วนลูกค้าไทยให้เติบโตควบคู่ไปด้วย ผ่านการจัดโปรโมชั่นและแคมเปญส่วนลดอย่างต่อเนื่อง

     ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกยังคงเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนและกำลังซื้อที่ชะลอตัว แต่โลตัสยังสามารถรักษาการเติบโตได้จากการขยายช่องทางออนไลน์และกลยุทธ์กระจายสาขา ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมของ CP EXTRA ที่มีผลประกอบการเชิงบวก โลตัสเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะได้รับแรงหนุนจากเทศกาลสำคัญและเทรนด์การ “ให้รางวัลกับตัวเอง (Self-Rewarding Spending)” ของผู้บริโภคไทย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี ทั้งในแคมเปญครบรอบโลตัสและเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ

     “โลตัสในบทบาท Destination for Life แม้ตลาดค้าปลีกยังคงเผชิญความท้าทาย แต่โลตัสยังเดินหน้าสร้างความแตกต่างผ่านแนวคิด ‘Feel Good Everyday at Lotus’s’ ที่มุ่งพัฒนาให้ห้างกลายเป็น จุดหมายปลายทางของอาหาร ไลฟ์สไตล์ และประสบการณ์ร่วมกันของทุกเจเนอเรชัน แน่นอนการขยายตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้จึงไม่ใช่เพียงการเพิ่มยอดขาย แต่เป็นการวางรากฐานสู่อนาคตที่ผสานเทคโนโลยี ดิจิทัล และวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้โลตัสก้าวสู่การเป็นแบรนด์ค้าปลีกไทยที่สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน” คุณวรวรรณกล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

Page Visitor

011836563
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
2883
6418
21976
21976
0
11836563
Your IP: 216.73.216.169
2025-12-19 10:20
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.