April 27, 2024

Biz Focus Industry Issue 112, May 2022

“บูรพา พรอสเพอร์” เดินเกมรุกปี 65 บุกทุกภูมิภาคของไทย พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ลบ.

บูรพา พรอสเพอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งข้าวโม่น้ำและแป้งผสมสำเร็จรูปแบรนด์ “หมีคู่ดาว”  ประกาศเดินหน้าธุรกิจปี 2565 แม้เผชิญความท้าทายที่ไม่แน่นอน มุ่งขยายตลาด ผนึกกำลังพันธมิตรยักษ์ใหญ่ “สหพัฒน์” กระจายสินค้าเข้าถึงทุกจุดทั่วประเทศ ตอบสนองลูกค้ารายย่อย-HORECA-อุตสาหกรรมอาหาร คาดรายได้ปี 2565 แตะ 1,000 ล้านบาท มั่นใจด้วยจุดแข็งองค์กรจะสามารถนำพาธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

คุณสถาพร ไพศาลบูรพา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด 

            คุณสถาพร ไพศาลบูรพา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งข้าวโม่น้ำและแป้งผสมสำเร็จรูปรายแรกในภาคตะวันออกของประเทศไทย ภายใต้ผลิตภัณฑ์แป้งตรา “หมีคู่ดาว” กล่าวว่า บูรพา พรอสเพอร์ เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2521 โดยในระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการพัฒนาเพิ่มศักยภาพในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนเติบโตและสามารถขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศได้กว่า 30 ประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยฐานการผลิตทั้งหมด 3 แห่ง คือไทย กัมพูชา และอินโดนีเซีย ด้วยกำลังการผลิตรวมกันประมาณ 100,000 ตันต่อปี โดยผลิตภัณฑ์หลักๆ จะประกอบไปด้วย 3 กลุ่มคือ แป้งพื้นฐาน แป้งผสม และแป้งตัดสูตร

            สำหรับการดำเนินงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยอดขายลดลงเนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่ม HORECA ที่เป็น Food Service ลดลง อย่างไรก็ตามยังมีส่วนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ผลิตอาหารเพื่อส่งออก กลุ่ม Ready-to-Eat ที่ยังสามารถเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นและนิยมรับประทานอาหารพร้อมทานแช่แข็งเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การดำเนินการผลิตในส่วนโรงงาน ยังคงต้องทำงานอย่างระมัดระวัง ต้องคอยป้องกันและควบคุมดูแลเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กันอย่างเต็มที่ ทั้งการดูแลพนักงาน การจัดหาวัคซีน รวมทั้งการจัดให้มีการทำงานที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งถือเป็นความท้าทายของการดำเนินงานช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

            คุณสถาพร กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานปี 2565 ว่า จากความท้าทายของปีนี้ที่เริ่มต้นปีด้วยเรื่องของเงินเฟ้อ บวกกับตลาดภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แต่บริษัทวางแผนอย่างรอบคอบไม่ว่าจะเป็น การควบคุมต้นทุน เพราะในสถานการณ์ที่เกิดภาวะเงินเฟ้อทุกอย่างจะมีราคาสูงขึ้น อีกทั้งสินค้ากลุ่มที่ผลิตไม่สามารถปรับราคาได้ตามใจ จึงต้องปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์ โดยมุ่งเน้น 2 ส่วนสำคัญคือ การ Cost Reduction และการเพิ่ม Productivity เพื่อให้ต้นทุนต่ำลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องดำเนินการตลอดทั้งปี 2565

            นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะขยายตลาดให้ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ "สหพัฒนพิบูล" (SPC) เพื่อกระจายสินค้าแป้งทำอาหารและขนมสำเร็จรูป ให้เข้าถึงฐานลูกค้าทุกจุดทั่วประเทศ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการครอบคลุมลูกค้ารายย่อยจนถึงกลุ่ม HORECA และกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ที่ใช้แป้งเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารแปรรูปต่างๆ โดยเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตได้ดีและเติบโตต่อเนื่องในช่วงวิกฤตโควิด-19 จึงต้องขยายพอร์ตส่วนนี้ให้มากขึ้น เพื่อเป้าหมายการเติบโตของบริษัทต่อไป

“การร่วมมือกับสหพัฒน์เป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งยังคงต้องเดินหน้าพัฒนาพร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งร่วมกันในทุกๆ ด้าน โดยเป้าหมายของเราก็คือการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักด้วยการสื่อสารทั้งส่วนของออฟไลน์และออนไลน์ มีการทำคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ให้กับผู้ขายทั่วประเทศ ขณะที่ออฟไลน์เรามีทีมส่งเสริมการตลาดที่คอยจัดกิจกรรมโปรโมทสินค้าตามจังหวัดต่างๆ อีกด้วย” คุณสถาพรกล่าว

            คุณสถาพร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายโดยรวมไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะโต กว่าปี 2564 เกือบ 70% โดยการตั้งเป้าดังกล่าว เพื่อให้เกิดความท้าทายสำหรับทีมงานว่าต้องมองให้ไกลขึ้น และบริษัทหวังว่าการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศในปีนี้จะทำให้บริษัทมีวอลลุ่มในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งหากแบ่งสัดส่วนตามเป้าหมายที่เราขยายตลาดในประเทศคาดว่าจะโตถึง 60% ส่วนต่างประเทศจะอยู่ที่ 40% (ปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 50% : 50%)

            ส่วนแผนธุรกิจระยะยาว บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าให้มีนวัตกรรมสอดคล้องกับยุคสมัย และความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะเป็น Next Step ของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม พร้อมยกระดับคุณภาพของสินค้าโดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท โดยเฉพาะการอัพเกรดเทคโนโลยีให้เป็น Smart Manufacturing นอกจากนี้เรายังเดินหน้าวางแผนพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory 4.0 เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้สะดวก รวดเร็ว และช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดอัตราการเกิดของเสีย ลดการพึ่งพาคนในกระบวนการผลิตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลดใช้ทรัพยากร โดยเพิ่มการใช้ข้อมูลในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ซึ่งตรงส่วนนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในอนาคตที่จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของเรายังอยู่

            คุณสถาพร กล่าวถึงจุดแข็งของบริษัทว่า การที่บูรพา พรอสเพอร์ดำเนินธุรกิจมาได้จนถึงปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญคือเรื่องของคุณภาพสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีและต้องปรับปรุงพัฒนาอยู่ตลอด เช่นผลิตภัณฑ์แป้งในปัจจุบัน จะไม่เหมือนกับแป้งในวันแรกที่เราผลิต เพราะมีการปรับปรุงและพัฒนามาโดยตลอด ซึ่งตรงตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ฉะนั้นจุดแข็งของเราคือ การไม่หยุดพัฒนาและทำอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันเรายังใส่ใจในการดูแลลูกค้า เนื่องจากมองว่าการทำธุรกิจเป็น Long Term เป็นสิ่งที่ต้องทำ และต้องสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้น โดยการดูแลลูกค้าของเราไม่ใช่เพียงแค่การขายสินค้าเท่านั้น แต่ต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจของลูกค้าประสบความสำเร็จจากการใช้สินค้าของเรา ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องราคาหรือคุณภาพ แต่ต้องเป็นการช่วยซัพพอร์ตกระบวนการทำงานของเขาด้วย ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตมาได้มาจนถึงวันนี้

            “ส่วนตัวในฐานะที่เป็นผู้บริหารองค์กร เราให้ความสำคัญกับเรื่องสร้างคนค่อนข้างเยอะ เราใช้เวลาและงบประมาณไปกับเรื่องนี้เยอะมากๆ เนื่องจากมองว่าองค์กรจะเติบโตได้ ก็ต้องมาจากคนทุกระดับในองค์กร มาจากพลังของทุกคน ฉะนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการดูแลคนและพัฒนาคน ซึ่งเราทำมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดอบรม พาไปดูงานต่างประเทศ โดยไปด้วยกันทุกระดับไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น เพื่อให้เขาได้เปิดโลก ให้เขาได้เห็นว่าต่างประเทศทำงานยังไง ซึ่งเรามองว่ามันเป็นการสร้างทรัพยากรให้กับบริษัท แม้ในอนาคตเขาไม่ได้อยู่กับเรา แต่มันยังถือเป็นการสร้างทรัพยากรให้ประเทศด้วย ก็ทำให้ประเทศชาติเราเติบโต คือไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนสิ่งที่เขาได้ไปก็จะตามไปสร้างคุณค่าได้เหมือนกัน ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญค่อนข้างมาก” คุณสถาพรกล่าว

            คุณสถาพร กล่าวปิดท้ายถึงเรื่องการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับการทำกิจกรรม CSR ว่า ด้วยประสบการณ์ในการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งข้าวคุณภาพสูงมามากกว่า 40 ปี และส่งออกมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก บริษัทของเราได้ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการบริหารจัดการความยั่งยืน เพื่อให้ธุรกิจและชุมชนได้เติบโตไปพร้อมกัน โดยปัจจุบันเราได้คำนึงถึงความสำคัญในการสร้างคน และมุ่งมั่นที่จะเสริมศักยภาพพนักงานของเรา ให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะประสบการณ์ และมีจิตอาสาในการรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งพนักงานเหล่านี้คือหัวใจหลักสำคัญ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตในวันข้างหน้าได้

            สำหรับกิจกรรม CSR มองว่าเป็นสิ่งที่ดี และควรที่จะทำควบคู่กับการดำเนินธุรกิจไปพร้อมกัน แต่ถ้าจะดีกว่านี้ ควรจะทำเป็นกระบวนการในการดำเนินธุรกิจยิ่งดี โดยปัจจุบันเราได้มีการหารือในส่วนของ BCG Model มาใช้ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ ในเรื่องของการใช้วัตถุดิบ ที่ผ่านกระบวนการผลิตมาแล้ว นำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น น้ำ หลังจากใช้น้ำในกระบวนการผลิตแล้วเสร็จ เราจึงนำน้ำเหล่านี้ มาใช้ประโยชน์ในการทำพืชผักสวนครัว และแจกจ่ายให้กับพนักงานนำไปประกอบอาหารได้

นอกจากนี้เรายังใช้กากกะลาปาล์มที่ผ่านการนำเอาไปทำน้ำมันแล้ว มาทำเป็นเชื้อเพลิงในการอบแป้ง เรามองว่าการนำเศษวัสดุทางการเกษตรที่ผ่านการใช้งานแล้วมาใช้ประโยชน์ได้ถือเป็น CSR อย่างหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในการผลิตแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

www.burapaprosper.com

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Sunday, 17 July 2022 11:35
BizFocus

Selfies labore, leggings cupidatat sunt taxidermy umami fanny pack typewriter hoodie art party voluptate. Listicle meditation paleo, drinking vinegar sint direct trade.

www.themewinter.com

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.

Page Visitor

010633663
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
1159
4975
31181
128279
137776
10633663
Your IP: 18.218.61.16
2024-04-27 06:52
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.