
Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
เทคโนโลยีผ่าตัดตับแบบแผลเล็ก ด้วยโปรแกรม ERAS ช่วยฟื้นตัวไว
โรคตับในระยะเริ่มต้นมักไม่มีอาการ เนื่องจากหากมีอาการแล้วมาพบแพทย์ แสดงว่าโรคมีความรุนแรงมากแล้ว ดังนั้นการตรวจเช็กสุขภาพทุกปีจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากพบว่ามีเนื้องอกหรือก้อนที่ตับควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการผ่าตัดรักษาโดยเร็ว ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดแบบแผลเล็กประกอบกับโปรแกรมฟื้นตัวไวหลังผ่าตัด (ERAS PROGRAM) ช่วยให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดรักษา ฟื้นตัวเร็ว หายไว กลับไปใช้ชีวิตได้เร็วขึ้น
รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง จับมือ สองหน่วยงาน ลงนามความร่วมมือการพัฒนาระบบดูแลติดตามอาการผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล IoMT
นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ร่วมกับ นายวชิระชัย คูนำวัฒนา ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nexter Living จำกัด และดร. ฤทธิชัย จิตภักดีบดินทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท myHealthGroup เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา ระบบดูแลติดตามอาการผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล (Internet of Medical Things หรือ IoMT) เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง อาทิ กลุ่มโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ ในการใช้อุปกรณ์ติดตามผู้ป่วยในขณะดูแลตัวเองที่บ้านเมื่อมีปัญหา และเป็นการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีทีมแพทย์และผู้บริหารร่วมงาน ที่ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง เร็วๆ นี้
ม.มหิดล เปิดทาง "แพทย์" พิสูจน์ความเป็น "นวัตกร" คิดค้น "นวัตกรรมอุปกรณ์ช่วยวัดตำแหน่งผ่าตัดสำหรับเปลี่ยนข้อสะโพก"
"กระดูก" คือ อวัยวะที่แข็งแรงที่สุดของร่างกาย แต่ความแข็งแรงนั้นย่อมเสื่อมถอยลงตามเวลาของการใช้ เช่นเดียวกับโรคที่มาพร้อมกับความสูงวัย และค่าใช้จ่ายทางสุขภาวะที่นับวันยิ่งมากขึ้นตามจำนวนประชากรในกลุ่มผู้สูงวัยที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องอาศัยการนำเข้ามีราคาสูง ในการผ่าตัดข้อเทียมนั้น ค่าใช้จ่ายจะมากหรือน้อย นอกจากขึ้นอยู่กับการเลือกคุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำข้อเทียมแล้ว ยังขึ้นอยู่กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ช่วยในการผ่าตัดด้วย
หมอแอมป์ “ตนุพล วิรุฬหการุญ” กับภารกิจขับเคลื่อน BDMS Wellness Clinic สู่ Wellness Tourism
ผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลก BDMS Wellness Clinic x Celes Samui
กระแสการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Wellness Tourism เริ่มเป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาสัมผัสกับบรรยากาศและฟื้นฟูสุขภาพไปพร้อมๆ กับการท่องเที่ยว “BDMS Wellness Clinic” ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟู จึงมีการจับมือกับ “Celes Samui” ที่มีทำเลของรีสอร์ทตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและทะเลที่สวยงามของหาดบ่อผุดที่มีทรายขาวโค้งเป็นแนวยาว ผสมผสานกับวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจัดทำโครงการ “BDMS Wellness Clinic Retreat” มอบบริการการแพทย์ระดับ พรีเมี่ยม และโปรแกรมการพักผ่อนเพื่อขับเคลื่อน BDMS Wellness Clinic และ Celes Samui สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างเต็มตัวในอนาคต
บำรุงราษฎร์ รีโนเวทห้องพักคุณแม่หลังคลอด รับเทรนด์การดูแลลูกน้อยของคุณแม่ยุคใหม่ พร้อมรองรับด้วยแผนก NICU ช่วยเหลือทารกแรกเกิดที่มีอาการวิกฤตทันท่วงที
ก้าวไปอีกขั้นกับบำรุงราษฎร์สู่การปรับเปลี่ยนเชิงบวกในการรีโนเวทห้องพักที่มุ่งเน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และทิศทางการแพทย์แห่งอนาคต (Shifting the Future of Healthcare) ซึ่งการรีโนเวทห้องพักให้มีความทันสมัยขึ้น สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้มารับบริการ ขณะเดียวกันยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วย สมาชิกในครอบครัวผู้ป่วย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานให้สะดวกราบรื่นยิ่งขึ้น นับเป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนรุ่นใหม่ในอนาคตด้วยเช่นกัน
รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ร่วมกับ รร.ทวิน ทาวเวอร์ เปิดให้บริการ Hospitel ใจกลางเมืองสำหรับผู้ป่วยโควิด-19
ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 กลับพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาการผู้ป่วยโดยมากไม่รุนแรง แต่ติดเชื้อเร็ว โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่วันละกว่า 2,000 ราย และหนึ่งในสี่ของผู้ติดเชื้อใหม่เป็นผู้ติดเชื้อเดิม ขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของออสเตรเลีย (AHPPC) ระบุว่า การติดเชื้อซ้ำสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 28 วัน หลังหายจากอาการโควิด แทนที่จะเป็น 90 วัน
รพ.นวเวช จัดโปรแกรม “ตรวจสุขภาพสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19” เริ่มต้น 2,900 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 65
“โรงพยาบาลนวเวช” โรงพยาบาลย่านเกษตรนวมินทร์ รัชดา-รามอินทรา ที่มุ่งให้บริการทางการแพทย์ที่ดีและเข้าถึงง่าย Accessible Quality Healthcare พร้อมดูแลสุขภาพของทุกคนอย่างเข้าอกเข้าใจ ด้วยบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย และทีมแพทย์เฉพาะทาง จัดโปรแกรม “ตรวจสุขภาพสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19” (Long Covid Care Health Checkup Program) เพื่อค้นหาและตรวจวินิจฉัยความผิดปกติในผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 โดยอายุรแพทย์เฉพาะทาง ราคาเริ่มต้น 2,900 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2565 สอบถามและนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ ศูนย์อายุรกรรม โทร. 0 2483 9999 หรือ www.navavej.com
รพ.กรุงเทพ เสริมความแม่นยำในการวินิจฉัยภาพถ่ายเอกซเรย์ทรวงอก โดยใช้นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ AI
ในปัจจุบันปัญหาการขาดแคลนรังสีแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ด้านรังสีวิทยา นับเป็นปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุข ซึ่งอาจส่งผลให้คนไข้จำนวนมากได้รับการวินิจฉัยและรักษาล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น โรงพยาบาลกรุงเทพได้เล็งเห็นความสำคัญและเลือกใช้นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ ( Artificial Intelligence ), Inspectra CXR มาเป็นผู้ช่วยแพทย์อัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์ความผิดปกติจากภาพรังสีทรวงอกได้อย่างละเอียด รวดเร็ว แม่นยำ และมีความโดดเด่นเฉพาะตัวที่สามารถตอบโจทย์การปฏิบัติงานของแพทย์ได้อย่างตรงจุด
เตือน! “เอ็นข้อเข่าฉีก” เรื่องไม่เล็ก เสี่ยงข้อเข่าเสื่อมก่อนวัย
บ่อยครั้งที่ได้เห็นภาพของนักฟุตบอลปะทะกันล้มลงบนสนาม เบาหน่อยอาจแค่พ่นยาแล้วลุกขึ้นชิงชัยอีกครั้ง แต่บางคนถึงกับต้องหามออกจากการแข่งขันเพราะเอ็นข้อเข่าฉีกขาด
ส่งออกไอศกรีมผลไม้รุ่ง แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ทุ่ม 200 ล้าน ขยายโรงงานเพิ่มกำลังผลิต
แก้ปัญหาออเดอร์ล้น ปรับใช้นวัตกรรมการผลิตใหม่ มุ่
ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ไอศกรีมซอร์เบในลูกแตงโมไซน์มิ
นายฐานพงศ์ จุ้ยประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกไอศกรีมและความนิยมผลิตภัณฑ์ไอศกรีมผลไม้ไทยในตลาดต่างประเทศว่า ผลิตภัณฑ์ไอศกรีมจากประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ไอศกรีมผลไม้ไทยที่มีรสชาติดี มีความหลากหลายและแปลกใหม่ ทำให้ล่าสุดประเทศไทยยังคงครองอันดับ 1 ของประเทศผู้ส่งออกไอศกรีมของภูมิภาคเอเชีย และเป็นอันดัน 4 ของโลกได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ผ่านมา (2563-2567) อยู่ที่ปีละ 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.486 พันล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ย 11% ต่อปี โดยในส่วนของ แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาเพียง 5 ปี ทำให้วันนี้บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและส่งออกไอศกรีมอันดับ 9 ของไทย โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นไอศกรีมซอร์เบในลูกผลไม้มีสัดส่วนถึง 70% โมจิไอศกรีม 20%ไอศกรีมซอร์เบผลไม้ชนิดถ้วย 10% จากสัดส่วนการขายในต่างประเทศ 99% และในประเทศเพียง 1%
จากปัญหาด้านภูมิอากาศและภัยแล้งแล้วทำให้ผลไม้ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตมีไม่เพียงพอ ทำให้แม้จะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาจำนวนมาก แต่ก็ไม่สามารถผลิตส่งให้กับลูกค้าได้ ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกันความเสี่ยงด้านวัตถุดิบไม่เพียงพอ รวมถึงเพิ่มศักยภาพและกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตที่เพิ่มขึ้นในทุกปี บริษัทฯ จึงดำเนินการพร้อมกันใน 2 ทาง คือ จัดการแก้ไขปัญหาและป้องกันความเสี่ยงด้านวัตถุดิบ โดยลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ในการพัฒนาพันธ์และปลูกสับปะรดวัตถุดิบสำคัญของผลิตภัณฑ์หลักในจังหวัดเชียงรายกว่า 1,300 ไร่ และ สระบุรี กว่า 100 ไร่ ซึ่งจะให้ผลผลิตรวมตั้งแต่ปลายปี 2567 ถึงสิ้นปี 2568 ที่ประมาณ 10 ล้านชิ้น และยังทำสัญญารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร (Fame Contact) อีก 30 ราย คิดเป็นพื้นที่ปลูกอีกประมาณ 1,000 ไร่ โดยเป็นผลไม้ชนิดต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตไอศกรีม เพื่อเก็บเข้าห้องเย็นของโรงงานที่มีความจุถึง 1,000 ตัน ซึ่งจะทำให้สามารถผลิตไอศกรีมให้แก่ลูกค้าได้ตลอดปี แก้ทั้งปัญหาการขาดวัตถุดิบและได้ต้นทุนที่ลดลง
ส่วนการผลิตนั้น แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ได้มีการเดินหน้าครั้งสำคัญ โดยลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ในการขยายและก่อสร้างโรงงานใหม่ จาก 2,000 ตรม. เป็น 5,000 ตรม. โดยเป็นการเพิ่มทั้งศักยภาพ ประสิทธิภาพ และกำลังการผลิตให้สูงขึ้นถึง 3 เท่าตัว จากเดิมวันละ 30,000 ชิ้น เป็น 90,000 ชิ้น หรือ จาก 350 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี เป็น 800 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี พร้อมสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไอศกรีมใหม่ให้กับบริษัทฯ ที่มีทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสที่โดดเด่นเป็นจุดแข็งที่แตกต่างและเป็นที่ต้องการบริโภคจากลูกค้าทั่วโลก
โดยโรงงานใหม่ของ แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ถือเป็นโรงงานผลิตไอศกรีมสมัยใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยระบบนิเวศน์ในการผลิตและกำจัดของเสียอย่างสมบูรณ์ มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงและมุ่งเน้นในการสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง อาทิ นวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนการใช้ไฟฟ้าเพื่อแช่แข็งไอศกรีมมาใช้ก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซน์หมุนเวียนแทน ทำให้ช่วยย่นระยะเวลาการผลิตจาก 4 วัน เหลือ 12 นาที สามารถประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟฟ้าจากเดือนละกว่า 1 ล้านบาท เหลือ 2 แสนบาทต่อเดือน มีการติดตั้งโซล่าร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อเป็นพลังงานหมุนเวียนภายในโรงงาน การจัดการขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) การหมุนเวียนน้ำเสียแบบ 100% ฯลฯ จากการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้จัดการกระบวนการผลิต โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัล CEO Economass Award 2024 จากนายกรัฐมนตรี และรางวัลบุคคลตัวอย่างภาคธุรกิจแห่งปี 2024 ภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จากมูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยอีกด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของปีนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก ซึ่งทางบริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไอศกรีมซอร์เบในลูกแต่งโมไซน์มินิ (Mini Watermelon Sorbet Ice Cream) ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก ความพิเศษของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้คือ การพัฒนาพันธุ์และผลผลิตของแตงโมให้มีขนาดเล็ก แบบไม่มีการตัดต่อพันธุกรรม เพื่อใช้เป็นภาชนะลูกแตงโมสดสำหรับใส่ไอศกรีม โดยหลังจากมีการนำเสนอกับลูกค้าในหลายประเทศก็ได้รับความสนใจมีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก โดยส่งออกไปยังประเทศเกาหลีก่อนเป็นประเทศแรก
ด้านการตลาดนั้นยังคงมุงเน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยส่งออกและจัดจำหน่ายอยู่ 7 ประเทศ คือ เกาหลี จีน ซาอุ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรเลีย เวียดนาม ส่วนเป้าหมายในการขยายตลาดใหม่เพิ่มเติม คือ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อาฟริกา และสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องรอความชัดเจนของผลการเจรจาข้อตกลงด้านภาษีระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐอีกครั้ง ซึ่งมาตรฐานโรงงานใหม่ถือเป็นแต้มต่อที่สำคัญอย่างยิ่งในการขยายตลาดต่างประเทศเนื่องจากผู้จัดจำหน่ายและผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ ที่ต้องใส่ใจในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
นอกจากการรับจ้างผลิต (OEM) และขยายตลาดในประเทศแล้ว ในปีนี้ทางบริษัทฯ ยังได้มีการเปิดตัวแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตัวเองในชื่อ แม็คซ์ เฟรช (MaxFresh) อีกด้วย โดยจะรุกตลาดยุโรปและอเมริกา ซึ่งคาดว่ารายได้รวมทั้งรับจ้างผลิต (OEM) ตลาดในประเทศ และตลาดการส่งออก ภายใต้ผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ แม็คซ์ เฟรช ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10%
สำหรับผู้สนใจรายละเอียดบริษัทฯ และผลิตภัณฑ์จาก แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นำเสนอข่าวโดยฝ่ายประชาสัมพันธ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณกัมปนาท ถวัลย์กิจดำรงค์ (หนุ่ม) โทร. 085 822 8238 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
คุณณัฐกานต์ อินเป็ง (แมว) โทร.089-770-7737 Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.