June 20, 2025

SJWD ทำกำไรสุทธิปี 67 พุ่งแรงสู่ 1,119 ล้านบาท เติบโต 47%

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

SJWD ทำกำไรสุทธิปี 67 พุ่งแรงสู่ 1,119 ล้านบาท เติบโต 47%

จากการสร้าง Synergy ลดต้นทุนและขยายธุรกิจ เตรียมจ่ายปันผล 0.28 บาทต่อหุ้น

พร้อมรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากลูกค้าและโครงการใหม่หนุนผลงาน Q1/68

         บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์” หรือ SJWD ประกาศผลการดำเนินงานปี 67 ทำกำไรสุทธิ 1,119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากปีก่อน และทำรายได้รวม 24,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน จากการสร้าง Synergy หลังรวมกิจการเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพขยายการลงทุน รวมถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่ แม้รายได้และกำไรสุทธิไตรมาส 4/2567 ชะลอตัว เนื่องจากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในกัมพูชาที่ร่วมลงทุน เลื่อนการบันทึกรายได้จากการขายที่ดินเป็นไตรมาส 1/2568 ส่งผลกระทบต่อการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามายังบริษัทฯ เตรียมเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาจ่ายปันผลอัตรา 0.28 บาทต่อหุ้น ขณะที่ไตรมาส 1/2568 รับปัจจัยบวกจากธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ ขยายบริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเตรียมเปิดคลังสินค้าห้องเย็นอีก 3 แห่งในปีนี้

         ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWDผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 รายได้รวม 6,335 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 185.4 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิที่ชะลอตัวเกิดจากภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ ประกอบกับบริษัท Phnom Penh SEZ Plc. ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ในประเทศกัมพูชาที่บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุน มีการปรับปรุงรายการทางบัญชี จึงต้องเลื่อนบันทึกรายได้จากการขายที่ดินจากไตรมาส 4/2567 เป็นไตรมาส 1/2568 กระทบต่อการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เข้ามายังบริษัทฯ รวมถึงบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2567 ยังมีอัตราเติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยทำรายได้รวมทั้งสิ้น 24,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 1,119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 761.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการสร้าง Synergy ภายในกลุ่มบริษัทฯ หลังจากรวมกิจการแล้วเสร็จ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนและช่วยเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจ

       โดยธุรกิจที่เติบโตได้ดีในรอบปีที่ผ่านมา ได้แก่ (1) ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในต่างประเทศ มีรายได้ 3,589 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.1% จากปีก่อน จากการขยายธุรกิจและได้รับงานใหม่ เช่น งานขนถ่ายปูนเม็ดเข้าสู่โรงงานผลิตซีเมนต์และลำเลียงซีเมนต์ขาออกไปยังเรือขนส่งแก่ VCM ในเวียดนาม (2) ธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าแบบ D2C (Direct to Consumer) มีรายได้ 2,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จาก
ปีก่อน จากการได้รับงานใหม่จาก บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ให้เป็นผู้ขนส่งสินค้าเบเกอรี่จากโรงงานผลิตไปยังร้าน
คาเฟ่อเมซอนในภาคต่าง ๆ และยังได้รับงานบริหารจัดการคลังสินค้าชั่วคราวและบริการขนส่งสินค้าแก่ดีลเลอร์และลูกค้าของแคเรียร์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา จากบริษัท บี.กริม แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (3) ธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าแบบ B2B แม้มีความกังวลผลกระทบจากอุตสาหกรรมซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่อยู่ในช่วงชะลอตัว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีรายได้ 8,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% จากปีก่อน จากการขยายฐานลูกค้าใหม่และได้รับงานเพิ่มขึ้นจาก SCG ขณะที่ ธุรกิจให้บริการจัดเก็บและบริหารสินค้า ได้แก่ เคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย มีรายได้ 552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% และคลังสินค้าห้องเย็น มีรายได้ 1,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อน จากดีมานด์จัดเก็บปลาทะเลที่เพิ่มขึ้น

      นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ (เมื่อไม่รวมรายการรายได้จากค่าความนิยม) จำนวน 344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.6% เนื่องจากในปีที่ผ่านมาได้ขยายการลงทุนโดยเข้าถือหุ้นในบริษัท บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินหรือ Cargo General Sales Agent (GSA) และบริษัท Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT (สวิฟท์) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจ Integrated Logistics ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย โดยการลงทุนดังกล่าวมาจากศักยภาพด้านเงินทุนที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ หลังรวมกิจการแล้วเสร็จ

      จากผลการดำเนินงานปี 2567 ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 จึงมีมติเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2567 ที่อัตรา 0.28 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน  507 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568

      ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน SJWD กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ดี โดยสถานการณ์เดือนมกราคมที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมาย ปัจจัยบวกมากจากธุรกิจให้บริการรับฝากและบริหารยานยนต์ที่จะมีปริมาณขนส่งรถเพิ่มขึ้น หลังจากจบงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และการขยายการให้บริการโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่องกับลูกค้ารายสำคัญ อาทิ บริษัท บี.กริม แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงบริษัทพันธมิตรในกลุ่ม SCG นอกจากนี้ บริษัท Phnom Penh SEZ Plc. ในกัมพูชาที่บริษัทเข้าร่วมลงทุน เตรียมรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

      ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นจะเปิดดำเนินการคลังแห่งใหม่อีก 3 แห่งภายในปีนี้ มีพื้นที่รวมกว่า 21,000 ตารางเมตร รวมถึงมีบริษัทที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ สนใจขยายการลงทุนคลังสินค้าห้องเย็นผ่านบริษัทร่วมทุน นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการลดต้นทุนธุรกิจขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลัก เพื่ออัตรากำไรที่ดียิ่งขึ้น

 

***********************************************

 

เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย บริษัท เอ็ม ที มัลติมีเดีย จำกัด (ในนาม บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : ฐิยาภรณ์ ศรีอดุลย์พันธุ์ (ดะห์) โทร. 087 556 6974  E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

 

Page Visitor

016216587
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
10649
12546
73948
235545
383861
16216587
Your IP: 216.73.216.221
2025-06-20 23:24
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.