
Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
บาฟส์ เปิดแผนปี 64 เดินหน้า 3 ธุรกิจหลัก ขับเคลื่อนองค์กรเติบโต
บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บาฟส์ เปิดแผนยุทธศาสตร์ 2564 – 2567 มุ่งพัฒนา 3 ธุรกิจ ทั้งธุรกิจหลัก ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในโลกยุคใหม่ พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บาฟส์ เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ว่า ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศและทั่วโลก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อน ได้สร้างผลกระทบต่อธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบิน อย่างไรก็ตาม บาฟส์ยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวไทยในระยะยาว ซึ่งบาฟส์ได้กำหนดยุทธศาสตร์องค์กร ปี 2564-2567 เพื่อการเติบโตของกลุ่มบริษัทอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าภายในปี 2567 จะมีส่วนแบ่งรายได้ของธุรกิจหลัก (Core Business) คือธุรกิจบริการน้ำมันอากาศยาน 43% และธุรกิจอื่น ๆ (Non-Core Business) 57% เพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้และกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจหลัก
โดยบาฟส์จะเดินหน้ารักษาศักยภาพและความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก พร้อมการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่สามารถตอบสนองโลกยุคใหม่ทั้งในเรื่อง Digital Transformation และ Disruption เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า กลุ่มบริษัทจะมีรากฐานที่แข็งแรงและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ สำหรับปี 2564 บาฟส์มีแผนดำเนินธุรกิจ ดังนี้
สำหรับผลการดำเนินการของกลุ่มบริษัท (BAFS และบริษัทย่อย) ในปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,882.5 ล้านบาท ลดลง 2,035.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับรายได้รวมของปี 2562 ซึ่งปรับลดลงตามปริมาณน้ำมันอากาศยานที่กลุ่มบริษัทให้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง และปริมาณน้ำมันจากการให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อ เนื่องจากการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม การเดินทางทางอากาศยานลดลงอย่างมาก ตลอดจนการบริโภคน้ำมันภาคพื้นดินปรับลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19
ซึ่งกลุ่มบริษัทได้ดำเนินมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ โดยมีต้นทุนบริการจำนวน 1,528.6 ล้านบาท ลดลง 300.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.4 และค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 588.9 ล้านบาท ลดลง 112.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 16 ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 374.3 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงลดลง 1,314.2 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 139.8 ทั้งนี้ แม้ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทจะขาดทุน แต่เนื่องจากมาตรการประหยัดค่าใช้จ่าย การลดเงินเดือนตามความสมัครใจของผู้บริหาร ทำให้ผลประกอบการเฉพาะกิจการของ BAFS มีกำไรสุทธิ 25.9 ล้านบาท
“ในการก้าวสู่ปี 2564 กลุ่มบริษัทพร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจตามแผนดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยมุ่งมั่นในการให้บริการธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงคุณภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานของหลักบรรษัทภิบาล การบริหารความเสี่ยงตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกับการบริหารจัดการองค์ความรู้สู่การสร้างนวัตกรรมเป็นพื้นฐานสำคัญ เพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตบนเส้นทางธุรกิจควบคู่กับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงานและความสามารถในการตอบสนองโลกยุคใหม่ บาฟส์จะขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ” นายประกอบเกียรติ กล่าวสรุป