สภาอุตสาหกรรมฯ จับมือพันธมิตรองค์กรชั้นนำจัดงาน FTI Expo 2022
สภาอุตสาหกรรมฯ เปิดงาน FTI Expo 2022 มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อแสดงศักยภาพและยกระดับความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรม โดยมีหัวเว่ยร่วมจัดแสดงนวัตกรรมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G คลาวด์ และดิจิทัลพาวเวอร์ สู่อุตสาหกรรม 4.0
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จับมือพันธมิตรองค์กรชั้นนำจัดงาน FTI Expo 2022 – Shaping the Future Industry for Stronger Thailand เพื่อแสดงศักยภาพและยกระดับความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายในระดับประเทศภายใต้แนวคิด BIO-CIRCULAR-GREEN ECONOMY (BCG Economy) เพื่อขานรับนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศ และจุดประกายการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรม ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
โดยมี บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ร่วมสนับสนุนด้วยการจัดแสดงนวัตกรรมผ่านบูธภายในงาน ซึ่งได้รับเกียรติจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชม โดยมีนายเจย์ เฉิน รองประธานบริษัทหัวเว่ย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ งานดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้ 5G คลาวด์ และดิจิทัลพาวเวอร์ในไทย เร่งการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมหลังยุคโควิด-19 เน้นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงจุดประสงค์ของการจัดงานมหกรรมในครั้งนี้ว่า “งานนี้เป็นการร่วมมือร่วมใจของกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งประเทศ ทั้งหมด 45 กลุ่มอุตสาหกรรม จาก 76 จังหวัด ในปัจจุบันนี้ โลกกำลังพบกับความท้าทายทุกรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือคลื่นความท้าทายจากเรื่อง “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน” ซึ่งภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยก็พยายามหนีกระแสความท้าทายในเรื่องนี้ตลอดเวลา ด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอุตสาหกรรมของเราให้มีประสิทธิภาพขึ้น คล่องตัวขึ้น และปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมประเภท New S-Curve 11 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงภาคยานยนต์ที่ต้องปรับไปเป็นเครื่องยนต์ EV ตามกระแสโลก
ทั้งนี้ เรามียุทธศาสตร์หลัก 4 เรื่อง ได้แก่ การผนึกกำลังอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคต การยกระดับ SME สู่สากลด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใหม่ และการพัฒนาภาคบริการให้เป็นแบบดิจิทัลเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย ผมต้องขอบคุณท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้เกียรติมาเข้าร่วมงาน รวมไปถึงภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วนที่ช่วยให้การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปอย่างสมบูรณ์”
นายโลแกน หวี่ ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์ หัวเว่ย ประเทศไทย (ซ้ายสุด) นายเจย์ เฉิน ประธานกรรมการ บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย (คนที่ 2 จากซ้าย) และนายเอดิสัน สวี คณะกรรมการบริหารบริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย (ขวาสุด) ร่วมจัดแสดงนวัตกรรม ณ บูธของหัวเว่ยภายในงานมหกรรม FTI Expo
ด้าน ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า “จุดประสงค์หลักของหัวเว่ยในครั้งนี้คือการช่วยผลักดันการนำเทคโนโลยี 5G คลาวด์ และพลังงานดิจิทัลมาใช้ในภาคการผลิตของประเทศไทยด้วยการนำเสนอกรณีตัวอย่างของการประยุกต์ใช้นวัตกรรมอัจฉริยะ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดภาคการผลิตอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี 5G เพื่อยกระดับภาคการผลิตของประเทศไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 และยังเป็นการเสนอแนะแนวทางการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมของหัวเว่ย เพื่อยกระดับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศไทยอีกด้วย”
“ภายในงานมหกรรม FTI Expo 2022 จะมีบูธจัดแสดงเทคโนโลยีของหัวเว่ยในสามหมวดหลัก ซึ่งได้แก่ หมวดแรกคือโซลูชัน 5G สำหรับอุตสาหกรรม ประกอบไปด้วยการใช้งานเทคโนโลยี 5G เพื่อรองรับภาคการผลิตอัจฉริยะ ภาคการขนส่งอัจฉริยะ และภาคการคาดการณ์การดูแลรักษาอุปกรณ์อย่างอัจฉริยะ หมวดที่สองคือนิทรรศการเทคโนโลยีคลาวด์ ซึ่งจะให้ความรู้เรื่องการให้บริการครบวงจรในรูปแบบคลาวด์ของหัวเว่ย และหมวดที่สามคือนิทรรศการด้านพลังงานดิจิทัล จัดแสดงโซลูชัน Smart PV & ESS เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โซลูชัน Residential Smart PV สำหรับใช้ในภาคครัวเรือน โมดูลชาร์จพลังงาน DC ประสิทธิภาพสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และไซต์พลังงาน รวมถึงโซลูชันศูนย์ข้อมูลเพื่อไอซีทีที่เป็นมิตรแก่สิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น” ดร.ชวพล กล่าวเสริม
เขายังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเราสามารถนำเทคโนโลยีคลาวด์ไปประยุกต์ใช้งานในด้านการคัดแยกแบบอัตโนมัติในสายการผลิตได้ โดยเฉพาะฟังก์ชันด้านการจดจำอัตโนมัติจากปัญญาประดิษฐ์ โซลูชันด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับศูนย์ข้อมูลของหัวเว่ยสามารถส่งมอบเทคโนโลยีไอทีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และยังสามารถช่วยลดระยะเวลาการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการเข้าสู่ตลาดได้ ส่วนโซลูชัน Fusion Solar ของหัวเว่ยจะช่วยส่งมอบการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ (PV) อย่างอัจฉริยะสำหรับภาคการผลิต นอกจากนี้ ในปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมประเทศไทยยังได้ประยุกต์ใช้โซลูชัน Smart PV ของหัวเว่ยกันอย่างแพร่หลาย เพื่อลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยเช่นกัน
“จากกระแสของการพัฒนาทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจชั้นนำของโลกแทบทุกประเทศต่าง ประกาศให้การนำอุตสาหกรรมสู่ระบบดิจิทัลและการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเป้าหมายสำคัญของประเทศ หัวเว่ยรู้สึกประทับใจที่ได้เห็นประเทศไทยกำลังเดินทางสู่เป้าหมายที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน โดยตลอด 22 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ดำเนินงานภายใต้พันธกิจ “เติบโตในประเทศไทย และสนับสนุนประเทศไทย” มาโดยตลอด เราเชื่อมั่นว่าพลังแห่ง 5G และเทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยสร้างอนาคตอันสดใส นำคุณค่ามาสู่ผู้คน ภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ เพื่อสร้างประเทศไทยที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างครอบคลุมและชาญฉลาดไปด้วยกัน” ดร.ชวพล กล่าวปิดท้าย